Sunday, November 28, 2010

วิธีเปลี่ยนสาย Panerai แบบไม่ทำให้ตัวเรือนเป็นรอย

ความจริงแล้วการเปลี่ยนสายของ นาฬิกา Panerai นั้นทำได้ไม่ยาก ใครๆก็ทำได้ แต่เพื่อสามารถใช้อ้างอิงได้ในอนาคต ผมจึงทำวิดีโอสาธิตการเปลี่ยนสาย Panerai รุ่นที่ใช้ไขควงในการไขถอดสกรูที่ขานาฬิกาออกมา บ้างครั้งมันอาจจะทำให้เกิดรอยได้ถ้าทำไม่ดี ผมก็ได้แนะนำวิธีที่จะป้องกันการเกิดรอยที่นาฬิกาไว้ด้วยครับ
เครื่องมือ: ไขควงไขนาฬิกา 1.6mm Bergeon สีม่วง




อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องยกเว้นนาฬิกา ซื้อได้ที่ watchkzy.com

Friday, October 22, 2010

iPod nano (2010) 6th generation on Nato strap

iPod nano ออกใหม่ล่าสุดนับเป็น generation ที่ 6 แล้ว รูปทรงจะเป็นเหมือนสี่เหลี่ยมจตุรัสมีจอขนาด 1.5 นิ้วพร้อมระบบ Muiti-Touch เหมือนกับ iPhone มาพร้อมภาครับวิทยุ FM ในตัว นอกจากนั้นแล้ว มันยังสามารถแสดงนาฬิกาบนหน้าจอแบบเต็มจอได้เลย ทำให้ถ้านำมันมาคาดข้อมือ มันก็จะกลายเป็น Gadget บนข้อมือได้เป็นอย่างดี แถมเทห์จนคนอื่นต้องแอบมองว่ามันคืออะไร
(รูปจากเว็บ apple.com)

ทีนี้ปัญหาคือจะเอามันมาคาดข้อมือได้ยังไง ทางออกง่ายๆคือหาสายมาคาด แล้วสายอะไรที่เหมาะกับ iPod nano มากที่สุดก็คือสาย Nato ซึ่งก็ซื้อได้ที่ร้าน watchkzy.com ของเรานั่นเอง ความเจ๋งก็คือสายนาโต้นี้สามารถนำไปใช้เป็นสายนาฬิกา้ของนาฬิกาที่เรามีอยู่แล้วก็ได้ และสายนาโต้องร้าน WatchKzy ก็เป็นสายนาโต้ของแท้จากอังกฤษจริงๆ ไม่ใช่ของถูกๆที่มีขายทั่วๆไปครับ ใส่มาแล้วเป็นยังไงก็ดูได้จากรูปเลยครับ






สายนาโต้ในรูปเป็นรุ่น Real James Bond UK 20mm ครับ เดี๋ยวจะมีขั้นตอนการใส่สายเข้ากับนาฬิกา iPod nano มาเพิ่มครับ

ขอบคุณรูปจากคุณ Neng จากร้าน Brandname ครับ

Sunday, October 17, 2010

Steinhart Nav B-Uhr VINTAGE automatic

Steinhart Nav B-Uhr VINTAGE automatic

นาฬิกานักบินเรือนใหญ่ขนาด 47mm ใหญ่สะใจดีครับ เม็ดมะยมรูปทรงเพชร ตัวเรือนพ่นทรายทำให้ดูด้านๆสีเทาๆครับ เข็มต่างๆสีทองสวยงามมากครับ หน้าปัดสีน้ำตาลเข้ม ทำได้ตรงตามหลัก Pilot Watch คือมีเข็มวินาทีอยู่ตรงกลาง นาฬิกานักบันพวกที่ใช้เครื่อง Unitas ส่วนมากจะเป็นสองเข็มครึ่ง (มีเข็มวินาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา) เรือนนี้เป็น Automatic ETA 2824-2 กลไกเชื่อถือได้จาก SWISS เลยครับ สายหนังก็เป็นหนังอย่างดีสีน้ำตาล ทำสไตล์ Vintage สวยงามจริงๆครับ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0818269069 ครับ หรือเมล์มาที่ info@watchkzy.com สนใจนาฬิกาอื่นๆเชิญดูได้ที่ http://www.watchkzy.com

Specifications:
กลไก
ETA 2824-2 Swiss Made automatic, hacking second
Jewels: 25 Rubin

แสดงผล
ชั่วโมง, นาที ด้วยเข็มสีทอง มีสารเรืองแสง Superluminova C3 สีเขียว เข็มวินาทีอยู่ตรงกลาง (Center Second)

โครงสร้าง
ตัวเรือน: Stainless steel ด้าน สีเทา VINTAGE
ฝาหลัง: Stainless steel มีสลัก
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 47mm (1.85 inches)
สูง: 14.2mm
น้ำหนัก: 136 g
หน้าปัด: สี Mocca หรือบางครั้งก็เรียก dark brown. Superluminova C3 green
กระจก: เป็นโดมแซฟฟายร์ Sapphire domed พร้อมมีเคลือบกันแสงสะท้อนด้านในสองชั้น ( double anti-reflecting coatings on the interior side)
สารเรืองแสง: Superluminova C3, green
ขนาดขา Lug width: 22mm ( 0.86 inches ) ใช้สายขนาด 22mm
การกันน้ำ: เนื่องจากเป็นนาฬิกานักบิน การกันน้ำเพียงน้ำกระเซ็นเท่านั้น ห้ามใส่ลงน้ำหรืออาบน้ำเด็ดขาด
สาย Strap: หนังเก่า แบบ VINTAGE leather สีน้ำตาล brown ขนาด 22 x 22 mm, ไม่กันน้ำ
บัคเคิล หัวเข็มขัด: Stainless steel matt VINTAGE grey, pin buckle OEM, 22 mm, screwed


Steinhart 44mm Automatic Nav B-Uhr II

นาฬิกานักบินตัวเรือนขนาด 44mm เป็น Stainless Steelใช้กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ ETA2824-2 งานการผลิตของตัวเรือนดีมาก หน้าปัดตามแบบฉบับของนาฬิกานักบิน ตัวเรือน Stainless Steel สายสี Vintage Brown เกือบดำ ขนาด 22mm นาฬิกา SWISS MADE ในราคาไม่ถึง 25000 บาท ที่มีคุณภาพระดับนี้คงหาไม่ได้แล้วครับ อีกทั้งทาง WatchKzy.com เองก็เป็นตัวแทนจำหน่าย Steinhart อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ดังนั้นนาฬิกาจะได้รับการประกันคุณภาพ 2 ปีเต็มๆครับ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0818269069 ครับ หรือเมล์มาที่ info@watchkzy.com สนใจนาฬิกาอื่นๆเชิญดูได้ที่ http://www.watchkzy.com

Specifications:
กลไก
ETA 2824-2 Swiss Made automatic, hacking second
Jewels: 25 Rubin

แสดงผล
ชั่วโมง, นาที ด้วยเข็มสีน้ำเงิน มีสารเรืองแสง Superluminova C1  เข็มวินาทีอยู่ตรงกลาง (Center Second)

โครงสร้าง
ตัวเรือน: Stainless steel แบบ brushed หรือขัดด้านแบบขนแปรง
ฝาหลัง: Stainless steel มีสลักรูปนักบินสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 44mm
สูง: 14.2mm
น้ำหนัก: 107 g
หน้าปัด: สีดำ
กระจก: เป็นโดมแซฟฟายร์ Sapphire domed พร้อมมีเคลือบกันแสงสะท้อนด้านในสองชั้น ( double anti-reflecting coatings on the interior side)
สารเรืองแสง: Superluminova C1
ขนาดขา Lug width: 22mm ( 0.86 inches ) ใช้สายขนาด 22mm
การกันน้ำ: เนื่องจากเป็นนาฬิกานักบิน การกันน้ำเพียงน้ำกระเซ็นเท่านั้น ห้ามใส่ลงน้ำหรืออาบน้ำเด็ดขาด
สาย Strap: หนังเก่า Russian สีน้ำตาล มีหมุดโลหะที่สาย ความกว้างสายขนาด 22 x 22 mm, ไม่กันน้ำ
บัคเคิล หัวเข็มขัด: Stainless steel matt VINTAGE grey, pin buckle OEM, 22 mm, screwed 



Friday, October 1, 2010

Ennebi : First Impression

Ennebi เรือนแรก ที่ทางผู้ผลิตส่งมาให้เป็นตัวอย่างได้มาถึงแล้ว ถ่ายรูปเล่นๆไปสองสามรูปเลยเอามาลงเรียกน้ำย่อยก่อนครับ รีวิวเต็มๆจะตามมาทีหลังครับ
ตัวเรือนขนาด 47 mm เป็น Titanium น้ำหนักกำลังดี ถ้าเป็น Stainless Steel คงหนักอึ้งแน่ๆครับ

สีจะออกสีเทา แล้วแต่สภาพแสง บางทีก็เทาอ่อน บางทีก็เห็นเป็นเทาเข้มเกือบดำ โครงสร้างแน่นหนา เหลี่ยมมุมเฉียบขาดมากๆครับ



ใส่บนข้อมือขนาด 7.5นิ้วของผมแล้วกำลังดีไม่ใหญ่มาก ถ้าคนที่ไม่ชินอาจจะรู้สึกใหญ่ 


เทียบขนาดกับ Panerai PAM 127 ซึ่งมีขนาด 47mm เหมือนกัน หน้าตาคนละแนว แต่น้ำหนักพอๆกัน แม้ตัว PAM 127 เป็น Stainless แต่เป็นเพราะมีฝาหลังเปลือยจึงลดน้ำหนักไปได้บางส่วน (รูปนี้ถ่ายจาก BlackBerry จึงไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ครับ)


รายละเอียดอื่นๆจะตามมาเรื่อยๆครับ กรุณาติดตาม Facebook Page ของ WatchKzy.com ที่ http://www.facebook.com/watchkzy จะมี update เรื่อยๆครับ ถ้าสนใจอยากดูเรือนจริงก็โทรได้เลยครับ 0818269069 punkky

Monday, September 27, 2010

ประวัตินาฬิกา Ennebi


Ennebi Fondale : photo from the Internet
ประวัติ Ennebi เรียบเรียงจากเว็บของ ennebi โดย WatchKzy.com 


Luniano Nincheri และ Alessandro Bettarini ได้ก่อตั้งยี่ห้อ Ennebi (เอน เน บี้) ขึ้นมาในปี 2004 โดยมีเป้าหมายคือการออกแบบและสร้างนาฬิกาด้วยการใช้เทคโนโลยีล่าสุดในขณะที่ ยังคงไว้ซึ่งความมีเอกลักษณ์ของงานทำมือตามประเพณีการสร้างนาฬิกาตามแบบฉบับอิตาเลี่ยน

ทีมงานที่ออกแบบและดูแลทางด้านวิศวกรรมที่ใช้ในการสร้าง Ennebi นั้น เป็นทีมงานที่เคยทำหน้าที่สร้างเครื่องมือต่างๆให้กับกองทัพเรืออิตาลี ซึ่งตัว Dr. Bettarini เองนั้นเคยทำงานวิจัยและพัฒนาด้านวิศวกรรมในบริษัทแห่งหนึ่งในเมือง Florence ซึ่งตอนนี้ได้ปิดตัวไปแล้ว (ผู้แปล: หมายถึงบริษัทดั้งเดิมของ Panerai นั่นเอง) ส่วน Nincheri นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเทคโนโลยีต่างๆรับหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนา


ถึงแม้ว่าผู้ก่อตั้ง Ennebi จะเคยทำงานที่ Panerai มาก่อน แต่การออกแบบและพัฒนานาฬิกาของ Ennebi นั้นไม่ได้มีแีรงบันดาลใจหรือว่านำมาจาก Panerai แต่อย่างใด ทุกอย่างถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาใหม่ และใช้ supplier ในอิตาลีแทบทั้งหมด


ก่อนจะมาเป็น Ennebi
ย้อนไปไกลถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเพิ่งจบลงได้เพียงไม่กี่ปี คือในปี 1925 คุณพ่อของ Alessandro Bettarini ซึ่งก็คือ Armando Bettarini  ด้วยอายุเพียง 20 ปี เค้าได้ตั้ง workshop เล็กๆขึ้นมา ซึ่งรับงาน จำพวกงานกลึงและงานสร้างต่างๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีบริษัทก็โตขึ้น และก็มีพนักงานคนแรก หลังจาก นั้นเค้าก็เริ่มสร้างสัมพันธ์กับบริษัทใหญ่ๆในเมือง Florence  ทำให้ต้องมีเครื่องมือและพนักงานที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองทำให้บริษัทต้องย้ายที่บ่อยๆเพื่อให้ได้พื้นที่มากขึ้น ซึ่งก็มีบริษัทที่ร่วมด้วยเป็นบริษัทที่ส่งสินค้าให้กับกระทรวงสงครามของ อิตาลีด้วย ผลงานที่โดดเด่นชิ้นหนึ่งของบริษัทของ Armando Bettarini คือ "หูยักษ์" (ตามรูป 1.) ซึ่งเป็นกรวยอลูมิเนียมขนาดยักษ์ เครื่องมือนี้จะติดตั้งบนรถ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ "ฟังเสียงเครื่องบิน" แล้วแปลข้อมูลทิศทางและระดับความสูงของเครื่องบินข้าศึก เพื่อส่งต่อให้กับฝ่ายติดตามอากาศยานจัดการต่อไป ตามปกติผู้ใช้งานเครื่องมือชนิดนี้จะเป็นคนตาบอดสองคน เพราะว่าพวกเค้าจะมีหูที่ไวกว่าคนธรรมดา
ในสมัยนั้น บริษัทตั้งอยู่ใกล้ๆ Ponte Vecchio และ Palazzo Pitti บริเวณกลางเมือง โดยบริษัทมีห้องสองสามห้อง 

รูปที่ 1. หูยักษ์
เดือนสิงหาคม ปี 1944 เมือง Florence เป็นสนามรบระหว่างกองทหาร Anglo-American ซึ่งมุ่งขึ้นเหนือ กับ กองทหารเยอรมันกับ Salo' Republic มีการก่อสงครามขึ้นหลายครั้งในเมือง โดยเยอรมันได้ทำลายสะพานทั้งหมด ยกเว้นสะพาน Ponte Vecchio เพื่อขัดขวางการเดินทางของกองทหาร Anglo-American แต่อย่างไรก็ตามมีการทำลายอาคารทั้งหมดที่ตั้งอยู่สองฝั่งของสะพาน Ponte Vecchio ที่พาดข้ามแม่น้ำ Arno ซึ่งบริษัทของ Armando Bettarini ก็อยู่ระหว่างตึกเหล่านั้น (ตามรูป 2.) นั่นคือบริษัทตั้งอยู่กลางสนามรบเลย สิ่งที่เค้าและพนักงานทำได้คือพยายามเก็บอุปกรณ์เครื่องมือที่ยังใช้งานได้ เอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อจะได้ไปเริ่มใหม่ที่อื่นโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็ได้ที่ใหม่เป็นอาคารสองชั้นอยู่ชานเมือง Florence  

รูปที่ 2 บริเวณสะพาน Ponte Vecchio ในวงกลมสีแดงคือบริษัทเดิมของ Armando Bettarini


ปี 1965 Armando Bettarini ป่วยหนัก ทำให้ Alessandro Bettarini (จะเรียกว่า Dr. Bettarini) ต้องเริ่มทำงานในโรงงานของพ่อเค้า ในปี 1970 Dr.Bettarini กับ Luciano Nincheri ได้ช่วยกันสร้างเครื่องกลึงแบบควบคุมอัตโนมัติขึ้นมา (สมัยนี้ก็คือ CNC นั่นเอง) 

ปี 1980 บริษัทของ Dr.Bettarini ก็ได้เป็น Supplier ให้กับ Officine Panerai (หรือ PAM ที่เราๆรู้จักกันดี) เป็นอยู่หลายปี และ Panerai ก็จ้าง Dr.Bettarini ทำงานเลย ซึ่งงานหลักคืองานวิจัยที่ทางกองทัพเรืออิตาลีสั่งมา ทำอยู่หลายปีจนได้เป็นผู้จัดการฝ่ายออกแบบด้านจักรกลของ Officine Panerai ด้วยตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการออกแบบนี่เอง ทำให้ Dr.Bettarini ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานใต้น้ำและนาฬิการุ่นที่สร้าง ขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการของฝ่ายกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นของอิตาลีหรือของประเทศอื่น แต่ทาง Panerai เองก็ไม่ได้ผลิตนาฬิกาอยู่นานเหมือนกันเพราะมัวแต่ผลิตอุปกรณ์อื่นๆ 

ปี 1982 Dr.Bettarini ได้เป็นคนเริ่มติดต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทำนาฬิกา ซึ่งเค้าจำได้ดีว่าได้โชว์นาฬิกา Panerai รุ่น  "Egiziano" ให้กับผู้จัดการผ่ายการค้าของบริษัทใน Milan ชื่อ บริษัท BINDA ซึ่งก็ได้รับความสนใจที่จะร่วมมือกันทางธุรกิจ แต่ว่าทางประธานของ Panerai ได้ปฏิเสธข้อเสนอไป เพราะเค้าไม่ต้องการความร่วมมือในระดับเดียวกัน เค้าต้องการเป็นผู้นำ ยิ่งไปกว่านั้น Panerai มีคำสั่งซื้อมากมายจากกองทัพเรืออิตาลี ทำให้ Panerai ไม่ต้องการให้พนักงานไปเสียเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งทาง Dr.Bettarini เองก็ได้ยืนยันจุดยืนของตัวเองจนกระทั่ง Panerai ตัดสินใจที่จะผลิตนาฬิกาขึ้นมาสำหรับนักประดาน้ำจู่โจมของกองทัพเรืออิตาลี จุดประสงค์คือการสร้างอุปกรณ์อันทันสมัยขึ้นมา หลังจากที่ฝ่ายผลิตนาฬิกาได้หยุดเคลื่อนไหวมานาน นาฬิกาที่ผลิตขึ้นมาตอนนั้นมีกระเดื่องล๊อคเม็ดมะยมด้วย แต่ในทางเทคนิคแล้วไม่มีความจำเป็น แต่ที่ยังคงไว้เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์นั่นเอง ตัวเรือนเป็น Titanium พร้อมหน้าปัดที่มีพรายน้ำ และ กระจกSapphire โดยใช้กลไกแบบขึ้นลานอัตโนมัติ และ เข็มวินาที ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่านาฬิกาทำงานอยู่หรือเปล่า มีการสร้างตัวต้นแบบขึ้นมาสองสามเรือน และส่งไปให้กับหน่วยประดาน้ำจู่โจมของกองทัพเรืออิตาลีได้ทำ การทดสอบ ซึ่งผลการสอบออกมาค่อนข้างดี แต่ว่าก็ไม่มีการสั่งซื้อ

ปี 1985 ทั้งนาฬิกาและเครื่องมืออื่นๆของ Panerai ได้ถูกนำไปแสดงที่งานแสดงของทหารเรือที่ Genova ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่งานนี้จัดในอิตาลี และที่งานนี้เองนาฬิกาได้ถูกขโมยไปจากตู้แสดง แต่ที่แปลกที่สุด คือนาฬิกากลับมายังตู้แสดงในวันสุดท้ายของงาน
เป็นเวลาหลายปีที่ Panerai หยุดผลิตนาฬิกา อุปกรณ์ที่สวมข้อมือที่ผลิตในตอนนั้นคือเข็มทิศและเครื่องวัดความลึก ซึ่งได้รับคำสั่งซื้อจากหน่วยงานของกองทัพอิตาลี และ กองทัพจากต่างประเทศ


ในช่วงปลายทศวรรต 80 สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งชื่อ Ermanno Arbertelli Editore ได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับ
อุปกรณ์ ที่ใช้โดยนักประดาน้ำจู่โจมในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในบทหนึ่งของหนังสือนี้ชื่อ "I MEZZID'ASSALTO DELLA Xa FLOTTIGLIA MAS" ("ASSAULT DEVICES OF THE Xa FLEET MAS") ซึ่งผู้เขียนคือ  Marco Spertini และ Erminio Bagnasco ได้กล่างถึง เข็มทิศสวมข้อมือ เครื่อเชื่อมใต้น้ำ และนาฬิกา ที่ผลิตโดย Officine Panerai ในระหว่างนั้นก็มีสำนักพิมพ์ญี่ปุ่นที่ทำหนังสือเกี่ยวกับนาฬิกา ได้มีความสนใจที่จะพิมพ์หนังสือนี้สำหรับนักสะสมนาฬิกชาวญี่ปุ่น จึงมีความสนใจส่งนักเขียนไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตของ Officine Panerai และด้วยเหตุการณ์นี้เองทำให้ Panerai ได้คิดถึงการผลิตนาฬิกาออกมาขายให้กับบุคคลทั่วไปด้วย เพราะคำสั่งซื้อจากกองทัพก็ลดลงมากเช่นกัน


รูปที่ 3 หนังสือญี่ปุ่นที่เขียนเกี่ยวกับเครื่องมือของ Panerai (Dr. Bettarini คือคนที่อยู่ซ้ายสุดแถวสอง)


นาฬิกาชุดแรกผลิตใน SWISS เพื่อความสะดวกในสร้างตัวเรือน การประกอบ ไปจนถึงการทดสอบ ในสมัยนั้นผลิตออกมาสองแบบคือ Luminor และ Mare Nostrum ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่า Luminor นั้นขายดีมาก ส่วน Mare Nostrum นั้นไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่

นาฬิกาชุดที่สองผลิตใน Italy ทั้งหมด ซึ่ง Supplier เกือบทั้งหมดอยู่ในเมือง Florence นั่นเอง ต่อมา Panerai ประสพปัญหาด้านการเงินจึงได้ขายส่วนของการผลิตนาฬิการวมไปถึงยี่ห้อ Panerai ไปให้กับกลุ่ม VLG  การขายครั้งนี้มีการสรุปเสร็จสิ้นก่อนที่นาฬิกาชุดที่สองจะผลิตแล้วเสร็จ จึงทำให้นาฬิกาที่ผลิตขึ้นมาเป็นของเจ้าของใหม่ (VLG) นั่นเอง
เนื่องด้วยการขายในครั้งนั้น ทำให้ Dr.Bettarini ต้องทำงานกับเจ้าของใหม่ และอยู่ภายใต้บริษัทใน
Florence ซึ่งเปลี่ยนชื่อไปเป็น Panerai Sistemi โดยทำอยู่ทั้งหมด 4 ปี บริษัทในโบโลเนีย (Bologna) ชื่อ Calzozi ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการทหาร ก็ได้ทำการซื้อ Panerai Sistemi ไป
หลัง จากออกจาก Panerai แล้ว Dr.Bettarini ก็ได้ติดต่อกับเพื่อนเก่า Luciano Nincheri คุยกันเกี่ยวกับ ความเป็นไปได้ในการสร้างนาฬิกาขึ้นมา ซึ่งมีความตั้งใจที่จะสานต่อประเพณีของ Florence ที่สูญหายไป เมื่อครั้งที่ยี่ห้อ Officine Panerai ได้ถูกขายไป และหาความต่อเนื่องระหว่างอดีตกับปัจจุบัน หลายปีผ่านไปเนื่องด้วยความไม่แน่นอนหลายประการทำให้ยังไม่ได้เริ่มโปรเจ็ค


ด้วย ความต้องการของทั้งสองคน ให้ในที่สุดก็ได้ตั้งบริษัท ENNEBI (เกิดจากชื่อสกุลของทั้งสองคนมาผสมกัน) มาถึงตอนนี้จุดประสงค์ได้เปลี่ยนไป ทั้งสองไม่ต้องการความต่อเนื่องจากอดีตที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ Dr.Bettarini เคยทำงานอยู่ (ผู้แปล: ซึ่งก็หมายถึง Officine Panerai นั่นเอง) อีกต่อไป


ผลิตภัณฑ์ ของ ENNEBI ควรมีระดับด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งที่ต้องการเน้นย้ำคือ  ความเป็นอิตาลี (Italian) โดยเฉพาะเรื่องที่มาของสินค้า ทาง ENNEBI ได้ใช้วัสดุในอิตาลีและ supplier เป็นบริษัทในอิตาลีมากที่สุด
เท่าที่จะทำได้


เดือน กุมภาพันธ์ 2004 บริษัท ENNEBI ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Chianti แถวชานเมือง Florence นาฬิการุ่นแรกของ ENNEBI ผลิตขึ้นหลังจากตั้งบริษัทขึ้นมา 6 เดือน เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับมืออาชีพ ซึ่งรุ่นแรกนี้คือ FONDALE (FON-DA-LY) ซึ่งเน้นการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ใช้งานจริง


รูปที๋ 4 Clean Room ที่ใช้ในการประกอบเครื่องมือและนาฬิกา
เดือน กุมภาพันธ์ 2005 สำนักงานใหญ่ได้ย้ายไป Prato และในปีนี้ ENNEBI ได้มีการตกลงเซ็นสัญญากับ F.lli Elmi เจ้าของกลุ่มอุตสาหกรรมใน Prato ซึ่งผลิตเครื่องจักรกลแบบ Hi-Tech ตั้งแต่การออกแบบทางวิศวกรรมไปจนถึงตีพิมพ์คู่มือทางเทคนิคด้วย ซึ่งนาฬิกาของ ENNEBI จะถูกประกอบภายใน Clean Room ของ F.lli Elmi จากความร่วมมือนี้เองทำให้ ENNEBI ได้เข้าถึงเครื่องมือและบุคคลากรที่มีคุณภาพสูงอันส่งผลให้นาฬิกาที่ได้มี ความน่าเชื่อถือสูงสุด
ต่อจาก FONDALE ก็มีรุ่นอื่นๆผลิตออกมาดังนี้:
    * MICTOFO, นาฬิกาที่ผลิตตามสเปคจากหน่วยงานแห่งหนึ่งภายใต้กองทัพเรืออิตาลี
    * FIR และ VI NATIONS, นาฬิกาที่ผลิตตามความต้องการของ Italian Rugby Federation;
    * CALAMO, ปากกา ทองคำ และ เงิน ผลิตให้กับนักสะสมโดยเฉพาะ
    * BUFO, นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี ใช้กลไก Quartz
    * SALMO, เข็มทิศสวมข้อมือสำหรับงานใต้น้ำ
    * NAUCRATES PRO, เครื่องมือนำทางใต้น้ำ
    * IX REGGIMENTO, นาฬิกาที่ผลิตตามสเปคจาก XI Reggimento "Col Moschin" Corps.


นาฬิกาทั้งหมดนี้ผลิตจำนวนน้อยและถูกตรวจสอบทุกระยะในการผลิต นาฬิกาแต่ละเรือนจะมีการสลักตัว
เลขเพื่อใช้ในการอ้างอิง โดยที่เอกสารที่มากับนาฬิกาจะมีหมายเลขเดียวกันกับตัวเรือน


สำหรับ Ennebi นั้นมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยคือ WatchKzy บริหารงานโดย punkky

Saturday, September 25, 2010

เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของนาฬิกา สองยี่ห้อดัง

นับเป็นก้าวสำคัญของ WatchKzy ครับ ที่ได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา ยี่ห้อดัง สองยี่ห้อ จากเยอรมัน และ อิตาลี

+ Steinhart : นาฬิกาชั้นดีจากเยอรมัน ราคาไม่แพง ผลิตใน SWISS ทุกรุ่น เราเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยครับ ดังนั้นนาฬิกาที่ซื้อจากเราตั้งแต่เดือน ก.ย. 2553 จะมีการรับประกัน 2 ปีเหมือนกับซื้อจากเยอรมันเองเลยครับ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 18,000 บาท เท่านั้น
Patek PhilippeSteinhart 44mmSteinhart 44mm

-  Ennebi : นาฬิกาสำหรับนักสะสมโดยเฉพาะ ผลิตในอิตาลี เราได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นผู้แทนจำหน่ายนาฬิกา Ennebi จาก Italy แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Ennebi Thailand Distributor) สำหรับนาฬิกา Lot แรกจะเข้ามาประมาณปลายเดือน ก.ย.นี้ครับ (รูปได้รับอนุญาติจากเจ้าของรูปที่ gnomon แล้วครับ) ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป
Ennebi ThailandEnnebi นาฬิกาต้นแบบของ Paneraiตัวแทนจำหน่าย Ennebi

Friday, August 20, 2010

สายนาโต้มาใหม่จากอังกฤษ ลายพรางทหาร


มาใหม่ล่าสุดครับสายลายพรางทหาร ใส่เท่ห์ไม่เหมือนใครจริงๆ นอกจากนั้นสายนาโต้ เส้นนี้ยังผลิตจากอังกฤษแท้ๆเลยครับ ใส่กับนาฬิกาที่แนวๆทหารหน่อยจะเข้ามากๆครับ เช่น Laco เรือนข้างล่างนี้

อย่าลืมอยากได้สาย Nato แท้จากอังกฤษต้องที่ ร้านขายสาย Nato ของแท้ เท่านั้น

Saturday, August 7, 2010

Nato straps in Stock


Nato straps in Stock, originally uploaded by WatchKzy.
แรกเริ่มเดิมที ผมเริ่มมีสายนาโต้จากการซื้อมาใช้กับนาฬิกาส่วนตัว พวก Rolex Submariner, Explorer II และอื่นๆ ตอนแรกสุดมีเพียงสองสีคือ ดำ-เทา James bond และ สีดำล้วน ร้านผมตอนนั้นจึงมีเพียง 2 สีนี้ขาย

พอเริ่มมีคนมาเห็นว่าที่ร้าน WatchKzy มีสายนาโต้ขาย ก็เริ่มมีคำเรียกร้องอยากได้สีนั้นสีนี้ ผมก็เพิ่มสีมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้มี 20 สี และกำลังเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1 สี คือสีลายพรางแบบทหาร

ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเสมอมาครับ

สายนาโต้สีต่างๆเหล่านี้ซื้อได้ที่ร้านขายสายนาโต้ WatchKzy.com ครับ

Tuesday, July 20, 2010

รีวิวสายนาฬิกาของแท้

รีวิวสายนาโต้ของแท้ โดยพี่หรั่ง (tokeirei) แห่ง Siamnaliga.com

รีวิวสายนาโต้ของแท้จากอังกฤษ

ซึ่งสายนาโต้ของแท้นั้นมีขายที่ WatchKzy.com ในราคาที่ถือว่าถูกมาก เพราะซื้อจากร้านในต่างประเทศต้องอย่างน้อย USD 40 ยังไม่รวมค่าส่งอีกต่างหากครับ ตอนนี้สายจากอังกฤษของเรามีสองแบบครับ คือ James Bond เทา-ดำ และ ธงชาติฝรั่งเศษ แดง-ขาว-น้ำเงิน

สายนาโต้ James Bond สายนาโต้ธงชาติฝรั่งเศส

ข้อดีของสายนาโต้คือ
- ใส่ลุยได้สบาย ลงน้ำก็ได้ แห้งเร็ว
- น้ำหนักเบา
- กรณี Spring Bar หรือที่ยึดสายกับนาฬิกา หลุดไปชิ้นนึง นาฬิกาก็ยังไม่หล่นพื้น เป็นการเสริมความปลอดภัยต่อนาฬิกา
- ไม่เกี่ยงว่า ข้อมือเล็กหรือข้อมือใหญ่ ใส่ได้สบายๆ
- ได้อารมณ์ร่วมประวัติศาสตร์ :)

Tuesday, June 8, 2010

รีวิว Laco Black Pilot's Watch Limited Edition 50 เรือน

รีวิว Laco Black Pilot’s Watch Limited Edition  สุดยอดนาฬิกานักบินจากผู้จากเยอรมันผู้ซึ่งผลิตนาฬิกาส่งกองทัพเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่สองอย่างแท้จริง



Laco เป็นนาฬิกาเยอรมันที่มีประวัติยาวนานประมาณ 85  ปี ( ก่อตั้งในปี 1925) มีความโดดเด่นในเรื่องการผลิตนาฬิกาส่งกองทัพอากาศของเยอรมันในสมัย สงครามโลกครั้งที่สอง โดยนาฬิกาเหล่านี้จัดเป็นยุทธภัณฑ์ นาฬิกาที่ใช้ในกองทัพจึงไม่มียี่ห้อบนหน้าปัดแต่มีการสลัก FL23883  ไว้ที่ข้างตัวเรือน บางครั้งก็สลักที่ด้านในของฝาหลัง


ตัวเรือนขนาดใหญ่ 55mm สำหรับ Laco รุ่นดั้งเดิม ที่ใช้่ในกองทัพ


ฝาหลังด้านในสลักรายละเอียดต่างๆ และ FL23883 คือหมายเลขประจำนาฬิกานักบิน

นาฬิกา สำหรับนักบินรบนั้นมีชื่อเป็นภาษาเยอรมันคือ Beobachtungsuhren หรือย่อว่า B-Uhren  สำหรับผู้ผลิตนาฬิกาที่ได้รับเลือกให้ผลิตนาฬิกาส่งกองทัพเยอรมันมีเพียง 5 รายเท่านั้น คือ A.Lange & Sohne, International Watch Company, Laco, Stowa และ Wempe ( http://www.calibremagazine.com/node/305 ) อย่างที่ทราบกันว่า Lange และ IWC  นั้นราคาสูงมาก ส่วน Wempe นั้นก็ไม่ได้ผลิตนาฬิกานักบินแล้ว ราคานาฬิกาของยี่ห้อนี้ก็สูงลิ่วเช่นกัน ส่วน Stowa นั้นราคายังอยู่ในช่วงที่เอื้อมถึงแต่การซื้อก็ทำได้ยากเพราะว่าไม่มีร้าน ค้าตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ยังมีเหลือก็แต่ Laco เท่านั้นที่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และตอนนี้ก็ได้ผลิตรุ่นพิเศษคือ Laco Black Pilot’s Watch ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนในโลกเท่านั้น
จึงถือโอกาสนี้นำมารีวิวถึงรายละเอียดกันครับ

ตัวเรือนและเม็ดมะยม
ตัว เรือนของ Laco Black Pilot นั้นสร้างจาก Stainless Steel 316L ผ่านการชุบแข็งแบบ PVD เป็นสีดำ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42mm แต่เนื่องจากเป็นสีดำอาจจะทำให้ดูไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับนาฬิกาขนาดเดียวกัน ตัวเรือนได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้แตกต่างจากตัวเรือนรุ่นอื่นๆของ Laco  โดยเฉพาะที่ขาหรือ Lug ของนาฬิกาได้ทำการออกแบบให้โค้งรับกับข้อมือมากขึ้น (รุ่นอื่นๆขาจะเป็นตรงๆ ทำให้ใส่แล้วกางถ้าข้อมือเล็กครับ) ขนาดความกว้างระหว่างขา 20mm ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน ทำให้สามารถหาสายเปลี่ยนได้ง่าย รวมถึงถ้าต้องการใส่กับสาย Nato  ก็ใส่ได้สบายมาก ได้่อารมณ์ทหาร สำหรับเม็ดมะยมนั้นไม่ได้เป็นแบบขันเกลียวเนื่องจากว่าไม่ใช่นาฬิกาดำน้ำ การกันน้ำอยู่ที่ 50m ซึ่งหมายถึงใส่ล้างมือหรือโดนฝนได้ แต่ไม่ถึงขนาดเอาไปแช่น้ำได้


ตัวเรือนขนาด 42mm


เปรียบเทียบขนาดกับ Panerai ขนาด 44mm


ด้านข้างตัวเรือน


Lug โค้ง มีขนาด 20mm


ใส่กับสายนาฬิโต้ก็สวยดีเหมือนกัน

กระจก
กระจก Shappire ป้องกันรอยขูดขีดได้ดี มีการเคลือบกันแสงสะท้อนระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีแสงสะท้อนอยู่บ้างเล็กน้อย

หน้าปัด
หน้าปัดของนาฬิกานักบินจะมีสองแบบคือ Type A และ Type B :
Type A  จะมีเครื่องหมายสามเหลี่ยมและจุดสองจุดแสดงตำแหน่ง 12 นาฬิกา และมีตัวเลขกำกับที่ตำแหน่งชั่วโมง เพื่อให้อ่านเวลาได้ง่าย หน้าปัดแบบนี้ผลิตในช่วงปี 1940-1941


หน้าปัด Type A ใน Laco รุ่น Bangkok Limited

Type B จะมีวงสองวงซ้อนกันโดยวงเล็กด้านในแสดงชั่วโมง และวงใหญ่ด้านนอกแสดงนาที ซึ่งหน้าปัดแบบ Type B นี้อ่านเวลาได้ง่ายจริงๆครับ เพราะเข็มสั้นจะชี้ตัวเลขชั่วโมง และ ชี้ตัวเลขนาทีเลย หน้าปัดแบบนี้ผลิตตั้งแต่ปี 1941 เพื่อใช้แทนหน้าปัดแบบ Type A


หน้าปัด Type B ใน Laco Black Pilot’s watch

สำหรับ Laco Black Pilot นั้นเป็นหน้าปัดแบบ Type B จึงทำให้อ่านเวลาได้ง่าย และได้เพิ่มช่องวันที่เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถใช้งานนาฬิกานี้ในชีวิต ประจำวันได้ง่ายขึ้น
พรายน้ำแบบ Superluminova บนหน้าปัดมีไว้เพื่อช่วยให้มองเห็นในที่มีแสงน้อยได้ดี เนื่องจากขีดพรายน้ำมีขนาดผอม ความสว่างของพรายน้ำจึงอาจจะสู้พวกที่เป็นนาฬิกาดำน้ำที่ีมีพื้นที่พรายน้ำ ขนาดใหญ่ได้


พรายน้ำสว่างระดับหนึ่ง


เปรียบเทียบกับนาฬิการุ่นอื่นๆ

กลไก
Laco Black Pilot ใช้กลไกแบบขึ้นลานอัตโนมัตหรือ Automatic มาตรฐานจาก SWISS รุ่น ETA 2824-2 เก็บพลังงานได้ประมาณ 42 ชั่วโมงเมื่อขึ้นลานเต็ม ความเที่ยงตรงอยู่ในระดับทั่วไป แต่ก็ไม่ได้วัดว่าวันหนึ่งผิดพลาดไปกี่วินาที เท่าที่ใช้งานดูก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะเดินช้าหรือเร็วมากมายนักครับ แน่นอนว่าการใช้กลไกจาก SWISS ทำให้เชื่อถือได้ถึงประสิทธิภาพ และไม่ต้องห่วงว่าเวลาเสียแล้วจะซ่อมไม่ได้

ฝาหลัง
ฝาหลัง เป็น Stainless Steel มีสลักรูปนักบินใส่หมวกนักบินสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ขอบด้านนอกสลักตัวเลขแสดงถึงการผลิตจำนวนจำกัด และ MADE IN GERMANY



สายหนัง
สาย หนังวัวผลิตพิเศษมีรูระบายอากาศด้วย ไม่เคยเห็นสายแบบนี้ใช้ในยี่ห้ออื่นครับ นอกจากสายสีดำที่ติดมากับตัวเรือนแล้ว ในกล่องยังมีสายสีน้ำตาลแถมมาด้วยอีกเส้นหนึ่ง เพื่อให้สลับกันใส่ให้เข้ากับการแต่งกายหรือว่าจะเปลี่ยนสายเพื่อเปลี่ยน อารมณ์ของนาฬิกาก็ได้ สายทั้งสองเส้นมี buckle รมดำติดมาด้วยเลย จึงทำให้ไม่ต้องถอดเปลี่ยน buckle เวลาเปลี่ยนสาย


สายหนังมีรูระบายอากาศด้วย


สายสำรองสีน้ำตาล

กล่องหนัง
นาฬิกา Laco Black Pilot มาในกล่องหนังยาว สีดำ ใช้ซิปในการเปิดปิด ภายในกล่องมีคู่มือการใช้งานนาฬิกา และ สายสำรอง



สรุป
Laco Black Pilot’s Watch นั้นได้ผลิตจากผู้ผลิตที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับการบินอย่างแท้จริง โดยมีการเพิ่มความพิเศษคือ ตัวเรือนแบบรมดำ PVD และ วันที่ เพื่อให้ใช่ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นความพิเศษที่สุดคือ มีเพียง 50 เรือนในโลก ด้วยราคาตั้งที่ 32500 บาท คงหานาฬิกาที่ผลิตน้อยขนาดนี้และมีราคาเพียงเท่านี้ไม่ได้อีกแล้วครับ ท่านที่มองหานาฬิกานักบินแท้ๆจากเยอรมันก็ไม่ควรมองข้ามนาฬิการุ่นนี้ไปครับ ตอนนี้ยังมีเหลืออยู่บ้าง สนใจก็สั่งซื้อได้ที่ WatchKzy.com : a Laco Distributor
แต่อีกไม่นานนี้จะมีการประมูลเริ่มราคา 1  บาทที่ Watchkan.com กรุณาติดตาม facebook ของ WatchKan   เพื่อจะได้รับข่าวก่อนใครครับ


[เพิ่มเติม ณ วันที่ 19 ก.พ. 2556 : WatchKzy.com ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย Laco แล้ว และ Hroyy.com ได้เปลี่ยนชื่อเป็น WatchKan.com]



Specification
ตัวเรือน: Stainless Steel 316L เคลือบแข็งสีดำ PVD ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42mm ตัวเรือนแบบใหม่ Laco ไม่เคยทำมาก่อน
กระจกหน้าปัด: เป็น Sapphire Crystal
หน้าปัด: แยก วงแสดงเลขชั่วโมง กับ เลขนาที ออกจากกัน ทำให้ดูเวลาง่าย และพรายน้ำเป็น Superluminova ทำให้สามารถอ่านเวลาได้ชัดเจนในสภาวะแสงน้อย พร้อมช่องแสดงวันที่
กลไก: เป็นกลไก SWISS MADE ขึ้นลานอัตโนมัติ (Automatic)รุ่น ETA 2824-2
การกันน้ำ: 50m
สาย: สายหนังอย่างดีสองชุด สีดำ และ สีน้ำตาล มีช่องระบายอากาศ ไม่ให้อับชื้น
อื่นๆ: เม็ดมะยมขนาดใหญ่ และกล่องหนังพิเศษ

ข้อมูลและรูปภาพโดย punkky เจ้าของเว็บไซต์ http://www.watchkzy.com เนื้อหาโพสต์ครั้งแรกที่ ริวิวนาฬิกานักบิน  แห่งเว็บซื้อขายนาฬิกา วอชคัน.คอม