Saturday, March 1, 2014

ประวัตินาฬิกา Panerai (PAM)

ประวัติ โดยย่อของ Panerai
Officine Panerai หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า PAM เป็นนาฬิกาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหมู่นักเล่นนาฬิกาทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ด้วยเหตุที่ว่าหน้าตามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่อย่างไรก็ตามด้วยหน้าตาอย่างเดียวคงไม่ทำให้มันดังขึ้นมาได้ขนาดนี้
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง นาฬิกาที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องได้นานๆนั้น ต้องมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ลองดูนาฬิกายี่ห้อดังๆที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek หรือ Seiko, Casio ล้วนมีจุดเด่นในประวัติศาสตร์ของตัวเอง

สำหรับ Panerai ก็เช่นกัน ผมคิดว่ามาถึงจุดนี้ได้เพราะมันมีประวัติ เราก็ลองมาดูประวัติเค้าสักนิด (ประวัติของ Panerai นี้ผมสรุปความมาจากหนังสือ PANERAI Style Book II  ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น ถ้า Copy ไป กรุณาให้เครดิตด้วยนะครับ)
โฉมหน้า Giovanni Panerai ผู้ก่อตั้ง Panerai

ย้อน ไปในปี 1860 Giovanni Panerai (มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1825-1897) ได้สร้างร้านนาฬิกาขึ้นมาชื่อ Orologeria G.Panerai&Co.ในเมืองฟลอเรนซ์ประเทศอิตาลี โดย Giovanni นั้นถือว่าเป็นผู้ก่อตั้ง Panerai ขึ้นมา ถึงแม้ว่าขณะนั้นยังไม่มีนาฬิกาเป็นของตัวเอง  นาฬิกาที่ขายอยู่ในร้านเป็นนาฬิกาชั้นนำจากสวิส และด้วยฝีมือในการซ่อมสร้างนาฬิกาของ Giovanni ทำให้ร้านเค้ามีชื่อเสียงมากในวงการนาฬิกาของอิตาลี ถึงขนาดสร้างเป็นโรงเรียนนาฬิกาแห่งแรกของฟลอเรนซ์เลยทีเดียว ซึ่งร้านนาฬิกาแห่งนี้ก็ตกทอดไปถึงลูกชายของเค้าชื่อว่า Leon Francesco แต่กว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับร้านนาฬิกาแห่งนี้ก็ต้องใช้เวลา ประมาณ 30 ปี คือในปี 1890 ลูกชายของ ​Leon Francesco ซึ่งก็คือ Guido  Panerai เปลี่ยนชื่อร้านเป็น Orologeria  Svizzera และเค้ามองว่าถ้าอยากจะทำธุรกิจด้านนาฬิกานั้นต้องเป็นนาฬิกาจากสวิสเท่า นั้นจึงได้ทำการตลาดอย่างหนักหน่วง โดยติดต่อเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกายี่ห้อดังของสวิส ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Vacheron, Longines, Patek Phillipe ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาของร้านในเรื่องฝีมือทำให้ร้าน Orologeria  Svizzera ขายนาฬิกาดีเป็นเทน้ำเทท่า
Guido Panerai หลานของ Giovanni
จาก การเป็นนักธุรกิจที่ไม่หยุดยั้ง Guido จึงได้ทำการขยายกิจการไปทำอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆที่เป็นกลไก เช่น เครื่องมือวัดความลึก เข็มทิศ ซึ่งก็นับเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Panerai ได้มีคอนเนคชั่นกับกองทัพเรืออิตาลีที่เรียกว่า Marina Militare  นั่นเอง และต่อมา PANERAI ก็ได้เป็นผู้จัดทำเครื่องมือเหล่านี้ส่งให้กับกองทัพเรืออย่างเป็นทางการ

ระหว่าง นั้นก็เกิดเหตุการณ์หลาย อย่างเช่น การย้ายร้านไปอยู่อีกถนนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่น่าสนใจจำเท่าไหร่ มาดูเนื้อที่สำคัญๆดีกว่า คือในปี 1936 นั้นทางกองทัพเรืออยากได้นาฬิกาสำหรับนักประดาน้ำหรือมนุษย์กบ (frogman) ซึ่งนาฬิกานี้ต้องใช้งานได้จริงใต้น้ำ ก็คืออ่านเวลาได้จริงๆแม้ในที่ไม่มีแสง และกันน้ำได้ดีๆ ซึ่งก็มีนาฬิกาหลายยี่ห้อส่งเข้าไปทดสอบแต่ก็ไม่มีใครผ่านการทดสอบนั้น กองทัพเรือเลยขอให้ ทาง ​Panerai  ทำนาฬิกาอย่างที่ต้องการหน่อย ซึ่ง Panerai ก็ได้สร้าง Radiomir รุ่นแรกออกมาคือรุ่น 3646 ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ ซึ่งในรูปแบบหนึ่งก็มีหน้าตาดังในรูปนี้แหละครับ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ก็ผ่านการทดสอบทุกอย่างด้วยดี อย่างที่บอกไปแล้วว่า Panerai เค้าทำเครื่องมือเป็นหลักมาก่อน ดังนั้นนาฬิการุ่นนี้จึงใช้กลไกรวมทั้งเม็ดมะยมและฝาหลังจาก Rolex
ซึ่ง Panerai เองก็ผลิตนาฬิการุ่น PAM 249 ขึ้นมาย้อนยุคไปถึง Radiomir รุ่นแรกที่มีหน้าปัดแบบ California และ จำนวนผลิต 1936 เรือนก็มาจากปีที่ออกรุ่นนี้มาเป็นครั้งแรกนั่นเอง
Panerai รุ่นปี 1936 (California Dial)
จาก นั้นอีกสองปี ในปี 1938  Panerai  ก็ได้ผลิตนาฬิกา Radiomir ส่งให้กองทัพเรืออิตาลีอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็มีหน้าตาดังรูปข้างล่างนี้ ซึ่งมันก็เป็นตัวต้นแบบของ PAM 232 นั่นเอง 
Panerai รุ่นปี 1938

ปัจจุบัน Officine Panerai อยู่ภายใต้ Richmond Group  และผลิตนาฬิกาปีนึงเพียงไม่มากรุ่นละไม่เกิน 3000 เรือน ซึ่งการผลิตจำนวนน้อยก็มีส่วนทำให้นาฬิกา Panerai แทบทุกรุ่นขายดีมากเพราะว่ามีจำนวนน้อยนั่นเอง

โดยสรุปแล้ว Panerai มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการทำนาฬิกาส่งให้กองทัพ ในสมัยสงครามโลก ซึ่งถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของมวลมนุษยชาติ แม้ว่าสงครามมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่มีใครต้องการ แต่ในแง่ของประวัติศาสตร์ยังไงก็ไม่สามารถลบออกไปได้

โดยส่วนตัว ผมคิดว่านาฬิกาที่เกี่ยวกับกองทัพมักจะได้รับความนิยมมากกว่าปรกติ อาจจะเป็นเพราะว่าคนอาจจะเชื่อถือว่า นาฬิกาที่ในในกิจการทหาร ต้องเป็นนาฬิกาที่ดี มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่ใช้งานไปแล้วจะพังง่ายๆ กองทัพจึงเลือกมาใช้งาน

จุดเด่นอย่างหนึ่งของนาฬิกา Panerai คือเจ้าของสามารถเปลี่ยนสายได้ด้วยตัวเอง เพราะจะมาพร้อมกับไขควงและสายสำรองอีกหนึ่งเส้น ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้ผลิตสายนาฬิกา Panerai ออกมาขายมากมาย ราคาหลักพันจนถึงหลักหมื่น

ส่วนร้านขายสาย Panerai ร้านขายสาย PAM ที่ดีๆบน Internet ในเมืองไทย ก็คือร้านผมเอง แหะๆ ขอโฆษณาหน่อยนะครับ ร้าน WatchKzy.com

Wednesday, February 5, 2014

แนะนำสินค้าซื้อไปขาย กำไรดี

ใครกำลังหาของเอาไปขาย เป็นรายได้เสริม ผมขอแนะนำสินค้าชิ้นนึง คือ ผ้าขัดลบรอยขนแมวบนโลหะ เป็นสินค้านำเข้าจากอเมริกา ใช้ลบรอยขนแมวบนโลหะผิวมันเงา ลูกค้าที่ซื้อไป นำไปขัดสิ่งของเหล่านี้ครับ

  • นาฬิกา
  • ปืน (ปืนที่รมดำ ใช้ไม่ได้)
  • เครื่องประดับ
  • เครื่องเงิน
  • เครื่องทอง
  • เครื่องทองเหลือง
  • แหวน
  • และอื่นๆอีกมากมาย
**สามารถใช้กับโลหะที่ผิวเงาเท่านั้น โลหะชุบให้ขัดแต่เบาๆ ทดลองกับสิ่งของที่ไม่มีค่าก่อน เพื่อให้รู้ว่าผลการใช้งานเป็นอย่างไร **


รายละเอียดสินค้าดูได้ที่ ผ้า Cape Cod ขัดรอยขดแมว
ราคาขายปลีกจากเว็บเราเอง ซองละ 280 บาท รวมส่ง EMS แต่ถ้าเอาไปวางขายตามร้านก็สามารถขายได้ราคาสูงกว่านี้ครับ

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: 

  • คนสะสมนาฬิกา 
  • คนเล่นปืน
  • คนสะสมเครื่องประดับ
  • คนใช้ Brand name
  • ร้านขายเครื่องประดับ
  • ร้านขายของเก่า


ถ้าท่านมีกลุ่มลูกค้าแนวนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนแถวบ้าน, คนแถวที่ทำงาน , ฯลฯ ท่านสามารถซื้อ Cape Cod ไปขายได้เลย (น้องๆมัธยม ซื้อไปขายญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านได้เลย)

ซื้อไปขายเริ่มต้นที่ 10 ซอง ลงทุนน้อย สอบถามราคาส่ง ได้ที่  whatsapp/tel: 0818269069 หรือ Line ID: watchkzy 
ผ้า Cape Cod ขัดรอยขนแมว
ผลการใช้ผ้า Cape Cod ขัดชิ้นงานที่มีรอยขนแมว ให้กลับเงางามเหมือนเดิม
ผ้า Cape Cod ขัดรอยขนแมว
ผลการใช้ผ้า Cape Cod ขัดชิ้นงานที่มีรอยขนแมว ให้กลับเงางามเหมือนเดิม

ผ้า Cape Cod ขัดรอยขนแมว
ผลการใช้ผ้า Cape Cod ขัดชิ้นงานที่มีรอยขนแมว ให้กลับเงางามเหมือนเดิม

Thursday, January 2, 2014

ราคา Panerai PAM 532

หลังจากลงรีวิว PAM 532 แบบเร็วๆ ไป ก็มีคำถามมาพอควรเกี่ยวกับราคาของเจ้าตัวนี้

ราคา PAM 532
Panerai PAM 532 ราคาตั้งอยู่ที่ $12,000 หรือ 9,000 EUR
ราคาตั้งจากผู้ผลิตอยู่ที่ $12,000 หรือ 9,000 EUR นั่นคือราคาที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่าย แต่ในท้องตลาดราคาขึ้นไปพอควรแล้ว 


จากการสำรวจราคามีขายที่
- $23,875.00 http://www.rolexforums.com/showthread.php?t=329663   
- $17,000 http://forums.timezone.com/index.php?t=tree&goto=6687202&rid=0#msg_6687202  

ในเมืองไทยก็มีเห็นราคาใกล้ๆ 6 แสนบาท และขายไปแล้วด้วย

เรือนของผมไม่ขายนะครับ